messenger icon
×
หน้าหลัก » ข่าวประชาสัมพันธ์ » เตรียมการใหญ่!! สอวช. เชิญรัฐ เอกชน มหาวิทยาลัย หารือการพัฒนากำลังคน เร่งผุด Manpower Planning ครั้งแรกของประเทศ

เตรียมการใหญ่!! สอวช. เชิญรัฐ เอกชน มหาวิทยาลัย หารือการพัฒนากำลังคน เร่งผุด Manpower Planning ครั้งแรกของประเทศ

วันที่เผยแพร่ 30 สิงหาคม 2019 403 Views

(29 สิงหาคม 2562) อาคารจัตุรัสจามจุรี – สำนักงานสภานโยบายการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมแห่งชาติ (สอวช.) กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) จัดประชุมหารือการพัฒนากำลังคนของประเทศ (Manpower Planning) เชิญรัฐ เอกชน มหาวิทยาลัยกว่า 60 คนหารือ เร่งผุดแผนพัฒนากำลังคนตอบโจทย์ประเทศครั้งแรกของไทย

ดร.สุวิทย์ เมษินทรีย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) เปิดเผยว่า ในอดีตที่ผ่านมา ประเทศไทยไม่เคยมีการวางแผนพัฒนากำลังคนที่ตอบโจทย์ความต้องการของประเทศ และแม้ว่ามหาวิทยาลัยจะเป็นแกนหลักสำคัญในการพัฒนากำลังคน แต่ที่ผ่านมายังเป็นการพัฒนากำลังคนแบบ Supply Side อย่างไรก็ตาม การเปลี่ยนประเทศให้ก้าวไปข้างหน้า รวมถึงกระตุ้นให้เกิดการลงทุนด้านเทคโนโลยี จำเป็นต้องอาศัยกำลังคนที่มีความเชี่ยวชาญมาขับเคลื่อน เพราะฉะนั้น หากเราจะร่วมกันปลดล็อกนำพาประเทศไปข้างหน้า ประเทศไทยต้องมีแผนการพัฒนากำลังคนที่มาจากความต้องการของผู้ประกอบการอย่างแท้จริง

“วันนี้เรามาช่วยกันคิดว่าจะทำอย่างไรให้เกิดแผนพัฒนากำลังคนอย่างจริงจัง ทั้งแบบ Degree / Non-Degree และ EEC / Non-EEC ทั้งนี้ มหาวิทยาลัย เป็นเพียงส่วนหนึ่งในการสร้างกำลังคนที่มีทักษะสูง หรือ Talent แต่เอกชนเองก็มีส่วนสำคัญในการสร้างด้วย ซึ่งรัฐบาลก็พร้อมจะสนับสนุนในด้านสิทธิพิเศษต่างๆ ในขณะเดียวกันการสร้างแรงบันดาลใจให้กับเด็กก็เป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้ เพราะเป็นแรงขับเคลื่อนสำคัญที่ทำให้เกิดกำลังคนที่มีคุณภาพของประเทศ” ดร.สุวิทย์ กล่าว

ดร.กอบศักดิ์ ภูตระกูล รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ข้อเสนอจากที่ประชุมครั้งนี้ รัฐบาลเห็นความสำคัญและจะรวบรวมเพื่อเสนอในการประชุม ครม.เศรษฐกิจ ซึ่งจะมีการหารือในประเด็น “จะทำอย่างไร ให้ประเทศไทยไม่ขาดกำลังคน” ซึ่งหากประเทศไทยสามารถผลิตกำลังคนได้อย่างมีประสิทธิภาพและตอบโจทย์ความต้องการของตลาดได้ ไทยจะเป็นประเทศแม่เหล็กในการดึงดูดบริษัทต่างชาติเข้ามาลงทุน

นอกจากนี้ ดร.ไพรินทร์ ชูโชติถาวร อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม ได้เสนอเป้าหมายการพัฒนากำลังคนด้านการอุดมศึกษาของประเทศ อาทิ เรื่องสัดส่วนการเรียนการสอนด้านวิทยาศาสตร์ต่อสังคม 40:60 การแบ่งมหาวิทยาลัยของภาครัฐออกเป็น 2 ประเภท คือ มหาวิทยาลัยเพื่อผลิตกำลังคน และมหาวิทยาลัยวิจัยเพื่อความเป็นเลิศ การปรับขนาดของสถาบันอุดมศึกษาให้สอดคล้องกับอัตราการเกิดของประชากร การผลักดันกิจการอุดมศึกษาของประเทศเป็นผู้นำกลุ่ม และศูนย์กลางของ CLMV และการปรับหลักสูตรการเรียนการสอนเป็นภาษาอังกฤษที่จะสามารถดึงดูดนักศึกษาจากประเทศเพื่อนบ้านเข้ามาเรียนในประเทศไทยได้ มีการทำวิจัยของมหาวิทยาลัยให้สอดคล้องกับนโยบาย Thailand 4.0 รวมถึงมีการใช้บทสรุปของ Education 4.0 ของ World Economic Forum (WEF) เป็นกรอบและแนวทางในการกำหนดหลักสูตรของมหาวิทยาลัย โดย WEF ได้กำหนดรูปแบบของ Education 4.0 ดังนี้ 1) Life Long Learning 2) Demand led instead 3) Competency-based instead 4) Incorporate disruptive technologies and skill sets 5) Modular Degree instead of one shot going 6)  Emphasis on EQ than IQ alone

ด้าน ดร.กิติพงค์ พร้อมวงค์ ผู้อำนวยการสำนักงานสภานโยบายการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมแห่งชาติ (สอวช.) กล่าวว่า สำหรับการหารือการพัฒนากำลังคนของประเทศครั้งนี้ ได้เรียนเชิญภาคเอกชนทั้งสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) และสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย มาหารือในฐานะผู้แทนของผู้ใช้กำลังคน เพื่อที่จะได้ทราบความต้องการกำลังคนจากภาคเอกชนอย่างแท้จริง ตลอดจนเชิญภาครัฐที่เกี่ยวข้องกับการสนับสนุนให้เกิดการผลิตกำลังคนอย่างบีโอไอ มาเพื่อหารือแนวทางการสนับสนุนจากภาครัฐ เชิญส่วนของมหาวิทยาลัย ในฐานะผู้ผลิตกำลังคน มารับทราบความต้องการของตลาดแรงงาน ทั้งนี้ ที่ประชุมได้เสนอข้อคิดเห็นมากมาย และได้แสดงถึงความพร้อมในการสร้างกำลังคนตอบโจทย์ประเทศ อาทิ ภาคส่วนมหาวิทยาลัยมองว่า หากประเทศมีการกำหนดความต้องการและวัตถุประสงค์ในการผลิตกำลังคนที่ชัดเจน มหาวิทยาลัยก็สามารถผลิตกำลังคนเพื่อตอบโจทย์ได้ นอกจากนี้ ภาคเอกชนยังเสนอให้บริษัทขนาดใหญ่ที่มีรายได้ 1,000 ล้านบาท/ปี ตั้ง Corporate Academy เพื่อ Upskill / Reskill เพื่อสร้างกำลังคนในบริษัท และรัฐบาลควรให้การสนับสนุนสิทธิพิเศษให้กับบริษัทเหล่านั้น นอกจากนี้ ภาคเอกชนเห็นว่าความต้องการของตลาดแรงงานปัจจุบัน มีความต้องการเร่งด่วน หากมีความเป็นไปได้ที่ฝ่าย Demand Side จะพบกับ Supply Side โดยตรงก็จะเป็นการดีที่จะร่วมกันผลิตหลักสูตรระยะสั้น 6 เดือนเพื่อให้ทันต่อความต้องการ

Tags:

เรื่องล่าสุด