![](https://www.nxpo.or.th/th/wp-content/uploads/2024/03/อว.-for-EV_1-1024x768.jpg)
(18 มีนาคม 2567) นางสาวศุภมาส อิศรภักดี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) พร้อมด้วย ดร.สุรชัย สถิตคุณารัตน์ รองผู้อำนวยการ สำนักงานสภานโยบายการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมแห่งชาติ (สอวช.) ผู้แทน สอวช. และคณะผู้บริหารกระทรวง อว. ร่วมลงพื้นที่ติดตามการดำเนินงานของกระทรวง อว. ภายใต้การประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) สัญจร กลุ่มจังหวัดภาคเหนือตอนบน 2 และเยี่ยมชมนิทรรศการ การดำเนินงาน อว. for EV เพื่อบูรณาการทำงานร่วมกันของหน่วยงานในกระทรวง อว. สู่การขับเคลื่อนประเทศไทยให้เป็น EV HUB ที่ใหญ่ที่สุดในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ณ อาคาร ICT มหาวิทยาลัยพะเยา จังหวัดพะเยา โดยภายในงาน รมว.อว. ได้ให้เกียรติเป็นประธานในพิธีลงนามข้อตกลงความร่วมมือการขับเคลื่อนนโยบาย อว. For EV ของ 23 หน่วยงานในสังกัดกระทรวง อว. เพื่อขับเคลื่อนประเทศไทยให้เป็น EV HUB ที่ใหญ่ที่สุดในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก
![](https://www.nxpo.or.th/th/wp-content/uploads/2024/03/อว.-for-EV_2-1024x768.jpg)
นางสาวศุภมาส กล่าวว่า รัฐบาลมีนโยบายส่งเสริมอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้า โดยตั้งเป้าหมายจะเป็น Hub ของยานยนต์ไฟฟ้าในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก โดยบอร์ดอีวีแห่งชาติได้ตั้งเป้าหมายจะผลิตรถยนต์ที่ไม่ปล่อยมลพิษอย่างน้อยร้อยละ 30 ของการผลิตยานยนต์ทั้งหมดของประเทศไทยภายในปี พ.ศ.2573 หรือที่เรียกว่านโยบาย 30@30 ดังนั้น เพื่อสนับสนุนนโยบายของรัฐบาลกระทรวง อว. จึงได้มีนโยบาย “อว.For EV” ใน 3 เสาหลัก ได้แก่ EV HRD หรือการผลิตกำลังคนให้เพียงพอต่อความต้องการของภาคอุตสาหกรรม เป้าหมาย 150,000 คนใน 5 ปี EV Transformation หรือการเปลี่ยนรถ ICE เป็นรถ EV ในมหาวิทยาลัยและหน่วยงานของ อว. เป้าหมาย 30% ภายในปี 2030 และ EV Innovation เพื่อยกระดับผู้ประกอบการด้วยวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (ววน.) ผ่านความร่วมมือจากทั้งภาคการศึกษา ภาครัฐ และ ภาคเอกชน จำนวน 100 ราย โดยการจัดสรรทุนวิจัยจากกองทุน ววน. ประมาณ 3,000 ล้านบาทใน 5 ปี ดังนั้นเพื่อให้เกิดความมั่นใจและแสดงความพร้อมของหน่วยงานต่างๆ ในการขับเคลื่อนนโยบาย “อว. For EV” จึงได้มีพิธีลงนาม MOU ขึ้น โดยทุกหน่วยงาน ทุกองคาพยพของกระทรวง อว. จะร่วมกันขับเคลื่อนนโยบาย อว. For EV โดยมหาวิทยาลัยพะเยาจะเป็นหน่วยงานแรกที่เปลี่ยนมาใช้รถบัส EV จำนวน 30 คัน คาดว่าจะสามารถลดการปล่อยก๊าซ เรือนกระจกปีละ 3,000 ตัน และทุกมหาวิทยาลัยจะร่วมกันเพื่อนำไปสู่การเป็น Green Campus ทั้งประเทศ และหากมาตรการ EV Transformation บรรลุผลสำเร็จตามเป้าหมาย 5,000 คัน ภายในปี 2573 ก็จะสามารถลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกได้ถึงปีละ 500,000 ตัน
![](https://www.nxpo.or.th/th/wp-content/uploads/2024/03/อว.-for-EV_3-1024x768.jpg)
![](https://www.nxpo.or.th/th/wp-content/uploads/2024/03/อว.-for-EV_4-1024x683.jpg)
ต่อมา นางสาวศุภมาส ได้ตรวจเยี่ยมการดำเนินการ อว. For EV ของมหาวิทยาลัยพะเยาที่เปลี่ยนมาใช้ยานยนต์ไฟฟ้าทั้งหมด พร้อมกับนำผู้บริหารกระทรวง อว. และผู้บริหารหน่วยงานในสังกัดนั่งยานยนต์ไฟฟ้า โดย นางสาวศุภมาส กล่าวว่า ขอบคุณทุกหน่วยงานของ อว. ที่ช่วยกันดูแลโลก ดูแลประเทศของเรา ซึ่งสอดคล้องกับนโยบาย Go Green ของ อว. เพื่อให้ประเทศสามารถแข่งขันได้ สิ่งที่ อว. จะเร่งดำเนินการคือการพัฒนาทักษะกำลังคน เพื่ออุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้า พร้อมกับการ Upskill กำลังคนในอุตสาหกรรมรถยนต์ควบคู่ไปด้วย
![](https://www.nxpo.or.th/th/wp-content/uploads/2024/03/อว.-for-EV_5-1024x768.jpg)
![](https://www.nxpo.or.th/th/wp-content/uploads/2024/03/อว.-for-EV_6-1024x683.jpg)
ขอบคุณรูปภาพจาก สป.อว.