![](https://www.nxpo.or.th/th/wp-content/uploads/2020/07/Cover-FB-4-1024x1024.jpg)
สำนักงานสภานโยบายการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (สอวช.) จัดเวที Recovery Forum โดยในวันที่ 23 กรกฎาคม 2563 ได้รับเกียรติจาก รศ.ดร. ณัฐชา ทวีแสงสกุลไทย รองอธิการบดีด้านการวางและกำหนดยุทธศาสตร์ นวัตกรรม และพันธกิจสากล จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย มาบรรยายในหัวข้อ “Leading futures: Chulalongkorn University Innovation for Society”
![](https://www.nxpo.or.th/th/wp-content/uploads/2020/07/IMG_1566-1-1024x683.jpg)
โดย รศ.ดร.ณัฐชา ได้แลกเปลี่ยนถึงยุทธศาสตร์ของจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ภายใต้วิสัยทัศน์ที่จะเป็นมหาวิทยาลัยแห่งชาติระดับโลกที่สร้างองค์ความรู้และนวัตกรรมเพื่อสร้างเสริมสังคมไทยสู่การพัฒนาอย่างยั่งยืน ตลอดจนพัฒนาบัณฑิตเพื่อรองรับโลกที่เปลี่ยนแปลงไป นอกจากนี้ ยังได้แลกเปลี่ยนถึงการดำเนินโครงการศูนย์กลางนวัตกรรมแห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย หรือ CU Innovation Hub ซึ่งเป็นโครงการเพื่อส่งเสริมการสร้างสรรค์นวัตกรรมที่ประโยชน์ต่อสังคมส่วนรวม สำหรับนิสิตนักศึกษาและผู้สนใจเข้าอบรมเรียนรู้กระบวนการสร้างนวัตกรรม และยังเป็นโครงการที่นำเสนอแนวคิดสร้างสรรค์ทางนวัตกรรมที่หลากหลายเพื่อการเปลี่ยนสังคมไทยสู่วิถีใหม่ในการใช้ชีวิต การเรียนรู้ และความคิดสร้างสรรค์ นอกจากนี้ ยังเปิด Market Place เพื่อเป็นช่องทางปั้นให้เกิดสตาร์ทอัพขึ้นมาหลายราย
นอกจากนี้ จุฬาฯ ยังได้จัดตั้ง บริษัท ซียู เอ็นเทอร์ไพรส์ จำกัด (CUE) เป็นบริษัทโฮลดิ้ง เพื่อเข้าไปลงทุนในบริษัทต่าง ๆ ที่นำงานวิจัยพัฒนาด้านนวัตกรรมของคณะวิชาต่าง ๆ ในจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ไปต่อยอดในเชิงพาณิชย์ และในช่วงวิกฤตโควิด-19 พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่าสามารถทำได้จากความร่วมมือระหว่างจุฬาฯ เจ้าของผลงานวิจัย และนักลงทุน ในการนำผลงานวิจัยมาต่อยอดผลิตเป็นสินค้าได้ ซึ่งการวางยุทธศาสตร์เป็นสิ่งสำคัญมากที่ทำให้ จุฬาฯ เกิดผลงานที่เป็นรูปธรรม และเกิดขึ้นได้ในเวลาอันรวดเร็ว นอกจากนี้ การผลักดันให้เกิดธุรกิจนวัตกรรม ผู้บริหารต้องเห็นความสำคัญของธุรกิจนวัตกรรมที่จะสร้างความเปลี่ยนแปลงให้เกิดขึ้นกับประเทศชาติ และร่วมหาวิธีเพื่อไปสู่เป้าหมายที่กำหนด
![](https://www.nxpo.or.th/th/wp-content/uploads/2020/07/IMG_1615-1024x661.jpg)
![](https://www.nxpo.or.th/th/wp-content/uploads/2020/07/IMG_1623-1024x683.jpg)
รศ.ดร.ณัฐชา ยังได้กล่าวถึงภาพบัณฑิตในอนาคตว่า จะต้องมีความดีเป็นพื้นฐาน และพัฒนาความเก่ง โดยการใส่ความรู้เข้าไป และเพิ่มเติมทักษะที่ทันต่อสมัย หรือ 4C ซึ่งประกอบด้วย 1. Creativity and Innovation คิดนอกกรอบและต่อยอดเป็น 2. Critical Thinking and Problem Solving คิดอย่างมีวิจารณญาณและแก้ปัญหาเองได้ 3. Communication สื่อสารได้ถูกต้อง และ 4. Collaboration การทำงานร่วมกับผู้อื่นได้
![](https://www.nxpo.or.th/th/wp-content/uploads/2020/07/IMG_1595-1024x683.jpg)
ดร.กิติพงค์ พร้อมวงค์ ผู้อำนวยการ สอวช. กล่าวว่า จุฬาฯ เป็นหนึ่งในมหาวิทยาลัยที่มีการพัฒนาโมเดลต้นแบบนวัตกรรมที่เป็นรูปธรรม และยังมีอีกหลากหลายมหาวิทยาลัยของไทยที่มีศักยภาพในการพัฒนาเทคโนโลยีและนวัตกรรมผ่านการใช้องค์ความรู้และทักษะความสามารถของบุคลากรมาเป็นกำลังสำคัญในการขับเคลื่อนเพื่อให้เกิดเทคโนโลยีและนวัตกรรมของประเทศที่จะเป็นทั้งกลไกสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจและตอบโจทย์สังคมตามกรอบนโยบายการพลิกโฉมการอุดมศึกษา ของกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) ทั้งในมิติการสร้างและพัฒนาคนไทยสู่ศตวรรษที่ 21 การสร้างและพัฒนาองค์ความรู้ การสร้างและพัฒนานวัตกรรม รวมถึงการปฏิรูปการอุดมศึกษา โดย สอวช. ได้มีความร่วมมือกับหลายมหาวิทยาลัยในการดำเนินโครงการเกี่ยวกับการส่งเสริมให้เกิดเทคโนโลยีและนวัตกรรม เช่น Entrepreneurial University & Enterprise, Excellence in R&I, Life Long Learning & Future Workforce รวมถึงเรื่อง Brain Circulation & Mobility เป็นต้น