messenger icon
×
หน้าหลัก » ข่าวประชาสัมพันธ์ » การพัฒนาเครื่องมือแพทย์ สำคัญอย่างไรต่อประเทศไทย?

การพัฒนาเครื่องมือแพทย์ สำคัญอย่างไรต่อประเทศไทย?

วันที่เผยแพร่ 11 กันยายน 2024 180 Views

สร้างโอกาสให้คนไทยเข้าถึงการรักษาที่ดีกว่าเดิม 👨‍⚕️👩‍⚕️🩺

สร้างความมั่นคงทางสาธารณสุข เพิ่มศักยภาพผู้ประกอบการเครื่องมือแพทย์ไทย ด้วย “การพัฒนาอุตสาหกรรมเครื่องมือแพทย์ด้วยนวัตกรรม”

ผลงานสมุดปกขาว พร้อมข้อเสนอแนะเชิงนโยบาย จาก สอวช. ที่นอกจากจะช่วยสร้างความมั่นคงทางสุขภาพให้กับคนไทย ลดภาระค่าใช้จ่ายด้านการแพทย์และสาธารณสุขของภาครัฐแล้ว ยังช่วยสร้างโอกาสทางเศรษฐกิจและสั่งสมศักยภาพในการพัฒนาเทคโนโลยีภายในประเทศด้วย

การพัฒนาเครื่องมือแพทย์ สำคัญอย่างไรต่อประเทศไทย?

✅ลดค่าใช้จ่ายในการนำเข้าเครื่องมือแพทย์จากต่างประเทศ

ปัจจุบันประเทศไทยนำเข้าเครื่องมือแพทย์เฉลี่ย 73,000 ล้านบาท/ปี โดย 52,000 ล้านบาท เป็นงบประมาณภาครัฐ หากมีการผลิตในประเทศจะลดการนำเข้าและเพิ่มอำนาจการต่อรองในการจัดซื้อกับบริษัทต่างชาติได้ในราคาที่ถูกลง โดยคาดว่าจะสามารถประหยัดงบประมาณภาครัฐได้กว่า 30%

✅ ลดความเหลื่อมล้ำในการเข้าถึงเครื่องมือแพทย์ โดยเฉพาะในพื้นที่ห่างไกล

โรงพยาบาลขนาดเล็กในชนบทเข้าถึงเครื่องมือแพทย์ได้น้อย ประชาชนที่อยู่ในพื้นที่ห่างไกลและประชากรกลุ่มเปราะบางที่ขาดความสามารถในการจ่ายค่ารักษาพยาบาล จึงมีความมั่นคงทางสุขภาพต่ำกว่าประชาชนในเขตเมือง เช่น กรุงเทพมหานคร เพียงจังหวัดเดียว มีเครื่อง CT Scan 24.7 เครื่อง/ประชากร 1 ล้านคน ในขณะที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือทั้งภาคมี CT Scan เพียง 7 เครื่อง/ประชากร 1 ล้านคน เป็นต้น

✅ สร้างความมั่นคงทางสาธารณสุข

ในภาวะวิกฤติ เช่น ในช่วงการแพร่ระบาดของ Covid-19 ที่ผ่านมา ไทยไม่มีอำนาจต่อรองกับประเทศผู้ผลิต ต้องรอให้ประเทศผู้ผลิตซัพพลายให้กับประเทศตนเองจนเพียงพอจึงจะส่งออกมายังประเทศอื่น ทำให้ช่วงแรกไทยต้องเสี่ยงขาดแคลนเครื่องมือแพทย์จำเป็นหลายรายการ เช่น เครื่องช่วยหายใจ เครื่องผลิตออกซิเจน เครื่องส่องตรวจระบบทางเดินหายใจ เครื่อง AED ชุดตรวจวินิจฉัย หน้ากาก N95 เป็นต้น

การพัฒนาเครื่องมือแพทย์ในประเทศจะช่วยลดภาระค่าใช้จ่าย และสร้างโอกาสทางเศรษฐกิจ โดยคณะอนุกรรมการขับเคลื่อนการพัฒนาเศรษฐกิจ BCG สาขาเครื่องมือแพทย์ ได้ตั้งเป้าหมายที่จะสร้างมูลค่าผลกระทบทางเศรษฐกิจและสังคมจากการพัฒนาอุตสาหกรรมเครื่องมือแพทย์ได้มากกว่า 100,000 ล้านบาท อีกทั้งยังเพิ่มการจ้างงานมากกว่า 5,000 คน และเพิ่มการเข้าถึงเครื่องมือแพทย์ให้ประชาชนในภูมิภาคและชนบทได้มากกว่า 1,000,000 คน และเพื่อความมั่นคงทางสาธารณสุขในระยะยาว ประเทศไทยจำเป็นต้องเปลี่ยนค่าใช้จ่ายด้านครุภัณฑ์และเวชภัณฑ์ทางการแพทย์ ให้กลายเป็นการลงทุนเพื่อสร้างศักยภาพทางนวัตกรรมด้านการแพทย์ให้กับประเทศ เพื่อลดภาระค่าใช้จ่ายจากการนำเข้าเครื่องมือและอุปกรณ์การแพทย์ ตลอดจนลดความเหลื่อมล้ำและสร้างความมั่นคงในภาวะวิกฤติ

4 ข้อเสนอแนะเชิงนโยบาย เพื่อความมั่นคงทางสาธารณสุขในระยะยาว

🔸 1. การพัฒนาบุคลากรด้านวิศวกรรมชีวการแพทย์ให้เชื่อมโยงกับความต้องการของภาคอุตสาหกรรม โดยภาคีเครือข่ายวิศวกรรมชีวการแพทย์ ร่วมกับ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การให้ความสำคัญกับการพัฒนาแรงงานช่างทักษะสูงเพื่อผลิตอุปกรณ์การแพทย์

🔸 2. การบริหารจัดการทุนวิจัยและพัฒนาเครื่องมือแพทย์ที่เชื่อมโยงตลอดห่วงโซ่และสอดคล้องกับความต้องการของตลาด โดย สกสว. และหน่วยบริหารจัดการทุนด้านการแพทย์

🔸 3. การสร้างความเชื่อมั่นและลดอุปสรรคในการเข้าสู่ตลาด โดยกรมบัญชีกลาง เช่น หน่วยงานสาธารณสุขของภาครัฐต้องจัดหาสินค้าจากผู้ผลิตในไทยก่อนเป็นอันดับแรก หากไม่มีจึงจัดหาจากผู้นำเข้าผลิตภัณฑ์จากผู้ผลิตต่างประเทศ รวมถึงการมีมาตรการด้านการให้สิทธิประโยชน์ต่าง ๆ เป็นต้น

🔸 4. ผลักดันให้เกิดแพลตฟอร์มอำนวยความสะดวกและยกระดับศักยภาพ SMEs เครื่องมือแพทย์ โดยหน่วยส่งเสริมผู้ประกอบการเครื่องมือแพทย์ ทั้งภาครัฐและเอกชน และสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (BOI) เช่น ส่งเสริมให้มีหน่วยงานกลางคอยทำหน้าที่ช่วยเหลือและให้คำปรึกษาผู้ประกอบการ ตั้งแต่ข้อมูลการตลาด การบ่มเพาะธุรกิจ การเชื่อมโยงแหล่งทุน เชื่อมโยงเครือข่ายของนักวิจัยและแพทย์พยาบาลผู้ใช้ โรงงานผู้ผลิต หรือการเข้าสู่ตลาดทั้งในและต่างประเทศ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการให้คำปรึกษาด้านการทดสอบมาตรฐาน และการเตรียมเอกสารต่าง ๆ เพื่อให้สามารถได้รับการรับรองจาก อย. ด้วยระยะเวลาที่สั้นลง เป็นต้น

อ่านเพิ่มเติมได้ที่ : สมุดปกขาว “การพัฒนาอุตสาหกรรมเครื่องมือแพทย์ด้วยนวัตกรรมของไทย 2567” ได้ที่ : https://www.nxpo.or.th/th/report/26057/

เรื่องล่าสุด