(27 มกราคม 2568) สำนักงานสภานโยบายการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมแห่งชาติ (สอวช.) นำโดย ดร.สุรชัย สถิตคุณารัตน์ ผู้อำนวยการ สอวช. รศ.วงกต วงศ์อภัย รองผู้อำนวยการ สอวช. พร้อมด้วยตัวแทนบุคลากร สอวช. หารือร่วมกับ Center for Research and Development Strategy (CRDS) ภายใต้ Japan Science and Technology Agency (JST) นำโดย Dr. Katsunori Hanamura Principal Fellow ของกลุ่มงานด้านสิ่งแวดล้อมและพลังงาน (The Environment and Energy Unit: EEU) ของ CRDS และศาสตราจารย์เกียรติคุณของสถาบันเทคโนโลยีแห่งโตเกียว (Tokyo Institute of Technology) และคณะ โดยเป็นการหารือแลกเปลี่ยนข้อมูลบทบาทและภารกิจของหน่วยงานในด้านการทำนโยบาย เพื่อนำไปสู่ความร่วมมือในการขับเคลื่อนในประเด็นที่เกี่ยวข้องร่วมกันได้ในอนาคต
Dr. Katsunori ได้แนะนำว่า CRDS ก่อตั้งขึ้นในปี ค.ศ. 2003 อยู่ภายใต้ JST โดย CRDS มีบทบาทหลักเป็น Public think tank ทำงานเกี่ยวกับการวิเคราะห์แนวโน้มด้านวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี นวัตกรรม รวมถึงด้านสังคมและนโยบาย ทั้งในประเทศและต่างประเทศ รวมถึงการระบุประเด็นปัญหาและเสนอกลยุทธ์ในด้านการวิจัยและพัฒนา มีการวิเคราะห์แนวโน้มในด้านการวิจัยและพัฒนา (R&D) นโยบายด้านวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและนวัตกรรม ความต้องการทางสังคม แนวโน้มในต่างประเทศ และนำข้อมูลที่ได้จัดทำเป็นข้อเสนอเชิงกลยุทธ์ รายงาน หรือการจัดการประชุมสัมมนา เป็นต้น นอกจากนี้ ยังทำงานสนับสนุนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องและผู้มีส่วนได้ส่วนเสียด้านการทำนโยบาย ซึ่งใน CRDS จะมีการแบ่งกลุ่มงานย่อยในการปฏิบัติงาน โดยมีกลุ่มงานด้านสิ่งแวดล้อมและพลังงานซึ่งถือเป็นประเด็นที่ประเทศญี่ปุ่นให้ความสำคัญอย่างมาก และงานของ CRDS จะครอบคลุมการทำนโยบายและการทำ R&D ในด้านนี้ เพื่อสนับสนุนการมุ่งสู่เป้าหมายการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ (Net Zero GHG) ของประเทศญี่ปุ่น
ด้าน ดร.สุรชัย ได้นำเสนอบทบาทของ สอวช. ที่ทำหน้าที่เป็นเลขานุการของสภานโยบายการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม ที่มีนายกรัฐมนตรีเป็นประธาน มีรองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม เป็นรองประธาน นอกจากนี้ ยังมีรัฐมนตรีจาก 9 กระทรวงร่วมเป็นคณะกรรมการ การผลักดันด้านนโยบายต่าง ๆ ก่อนจะเสนอไปที่คณะรัฐมนตรีก็จะต้องได้รับการพิจารณาจากสภานโยบายฯ ก่อน
ในด้านการปฏิบัติงาน สอวช. ทำงานด้านนโยบายคล้ายกับ CRDS ที่มีการศึกษาวิเคราะห์ข้อมูลก่อนนำไปสู่นโยบายจริง โดย สอวช. ในอดีตคือ สำนักงานคณะกรรมการนโยบายวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและนวัตกรรมแห่งชาติ (สวทน.) และได้ปรับมาเป็น สอวช. หลังมีการปฏิรูประบบในปี พ.ศ. 2562 ซึ่งได้มีการรวมภารกิจด้านการอุดมศึกษาและด้านวิทยาศาสตร์ วิจัย นวัตกรรม (ววน.) เข้าด้วยกัน เกิดเป็นกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) ทำให้บทบาทและภารกิจของ สอวช. ครอบคลุมทั้งด้านการอุดมศึกษา ด้าน ววน. และยังรวมไปถึงด้านสังคมศาสตร์ มนุษยศาสตร์ ศิลปศาสตร์ด้วย
“สอวช. เป็นหน่วยงานด้านนโยบายที่ต้องให้แนวทางกับรัฐบาลในการขับเคลื่อนนโยบายด้าน อววน. เราทำงานกับผู้มีส่วนได้ส่วนเสียที่หลากหลาย ผ่านการใช้เครื่องมือที่เรามี ดูว่าประเทศไทยต้องการอะไร ครอบคลุมถึงการวางแนวทางการการจัดสรรทุนด้านการวิจัยให้เหมาะสม โดย สอวช. ทำงานร่วมกับ สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (สกสว.) เพื่อวางแผนการจัดสรรทุนวิจัยในภาพใหญ่ของประเทศ” ดร.สุรชัย กล่าว
ด้าน รศ.วงกต ได้เล่าถึงบทบาทของ สอวช. ที่เกี่ยวข้องกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (Climate change) โดย สอวช. ได้รับมอบหมายให้เป็นตัวแทนประเทศไทย เข้าร่วมการประชุมรัฐภาคีกรอบอนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (COP) ในฐานะผู้แทนเจรจาหลักประเทศไทย (Thailand’s lead negotiator) ในประเด็นการพัฒนาและถ่ายทอดเทคโนโลยีด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศมาอย่างต่อเนื่อง และ สอวช. ยังทำหน้าที่เป็นหน่วยประสานงานกลางด้านการพัฒนาและถ่ายทอดเทคโนโลยีด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศของประเทศไทยด้วย (National Designated Entity: NDE Thailand) นอกจากนี้ สอวช. ยังมีบทบาทดูแลศูนย์คาดการณ์เทคโนโลยีเอเปค (APEC Center for Technology Foresight: APEC CTF) ซึ่งเป็นศูนย์ที่มีภารกิจในการคาดการณ์เทคโนโลยีในอนาคต โดยใช้เครื่องมือในการคาดการณ์อนาคตเข้ามาช่วย ทำให้มองเห็นประเด็นสำคัญที่อาจเกิดขึ้น และหาแนวทางเตรียมพร้อมรับมือได้ ซึ่งประเด็นเรื่อง Climate change เป็นหนึ่งประเด็นที่ สอวช. มีการขับเคลื่อนด้านนโยบายอย่างเข้มข้นด้วยเช่นกัน โดยในปีนี้ สอวช. จะเริ่มทำเอกสารชุดที่ 2 ของการประเมินความต้องการเทคโนโลยี (Technology Needs Assessment: TNA) เพื่อประเมินว่าไทยต้องการเทคโนโลยีอะไรในการลดก๊าซเรือนกระจก จัดทำเป็นรายงานและเสนอต่อองค์การสหประชาชาติ (United Nations: UN) อีกทั้ง รศ.วงกต
ยังได้เน้นย้ำความเป็นไปได้ในการริเริ่มความร่วมมือกับ CRDS, JST โดยเฉพาะอย่างยิ่งการจัดทำงานวิจัยนโยบายเชิงเปรียบเทียบในหัวข้อที่มีความสนใจร่วมกันด้วย
จากการหารือร่วมกัน ดร.สุรชัย กล่าวว่า ไทยและญี่ปุ่นเป็นพันธมิตรที่ดีกันมาอย่างยาวนาน แนวทางการทำงานร่วมกันระหว่าง สอวช. และ CRDS จึงต้องการสร้างความเข้มแข็งและสร้างความสัมพันธ์อันดีในการทำงานร่วมกันระหว่าง 2 ประเทศ โดยเฉพาะในมุมด้านนนโยบาย ซึ่งการหารือในครั้งนี้จะเป็นจุดเริ่มต้นในการสร้างความร่วมมือระหว่างหน่วยงานในโครงการที่เกี่ยวข้องได้ต่อไป