messenger icon
×
หน้าหลัก » ข่าวประชาสัมพันธ์ » กระทรวง อว. โดย สอวช. ร่วมกับ Madre Brava องค์กรสากลด้านการขับเคลื่อนเพื่อสิ่งแวดล้อม เปิดรับฟังความเห็นการเปลี่ยนผ่านด้านโปรตีนอย่างยั่งยืน พร้อมชี้โอกาสเติบโตอุตสาหกรรมอาหารอนาคตของไทย

กระทรวง อว. โดย สอวช. ร่วมกับ Madre Brava องค์กรสากลด้านการขับเคลื่อนเพื่อสิ่งแวดล้อม เปิดรับฟังความเห็นการเปลี่ยนผ่านด้านโปรตีนอย่างยั่งยืน พร้อมชี้โอกาสเติบโตอุตสาหกรรมอาหารอนาคตของไทย

วันที่เผยแพร่ 26 กุมภาพันธ์ 2025 70 Views

สำนักงานสภานโยบายการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมแห่งชาติ (สอวช.) ร่วมกับ Madre Brava องค์กรสากลด้านการขับเคลื่อนเพื่อสิ่งแวดล้อม ที่มีภารกิจในการสร้างระบบอาหารที่ยั่งยืน เปิดประชุมรับฟังความเห็นหัวข้อ “การเปลี่ยนผ่านด้านโปรตีนอย่างยั่งยืน” เมื่อวันที่ 19 กุมภาพันธ์ 2568 ณ ห้องประชุมหว้ากอ 2 สอวช. โดยมี ดร.สิริพร พิทยโสภณ รองผู้อำนวยการ สอวช. กล่าวต้อนรับและกล่าวถึงโอกาสของอุตสาหกรรมอาหารอนาคตของไทย (Future Food)

ดร.สิริพร กล่าวว่า อุตสาหกรรมอาหารอนาคตของไทยมีโอกาสในการเติบโตและแข่งขันในระดับสากล ด้วยปัจจัยสนับสนุนที่แข็งแกร่ง ไม่ว่าจะเป็น ความหลากหลายของวัตถุดิบ การเกษตรต้นน้ำ และบทบาทของไทยในฐานะ “ครัวของโลก” ซึ่งในปัจจุบัน สอวช. อยู่ระหว่างจัดทำข้อเสนอนโยบาย มาตรการ และแนวทางดำเนินงานเพื่อส่งเสริมอุตสาหกรรมอาหารแห่งอนาคต โดยมีกลยุทธ์ขับเคลื่อนอุตสาหกรรมอาหารอนาคตของไทย 3 ประการ ดังนี้ 1. การต่อยอดอุตสาหกรรม 2. การผลักดันวิจัยและพัฒนา และ 3. การต่อยอดและพัฒนาตลาด เพื่อนำไปสู่เป้าหมายในการผลักดันให้มูลค่าอุตสาหกรรมนี้ของประเทศไทยเติบโตสู่ระดับ 500,000 ล้านบาท ภายในปี 2570

สำหรับประเทศไทยมีศักยภาพสูงในการเป็นศูนย์กลางด้านโปรตีนที่ยั่งยืนของภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยเฉพาะการเปลี่ยนผ่านจากโปรตีนจากสัตว์ไปสู่โปรตีนจากพืช รวมถึงโปรตีนทางเลือก (Alternative Protein) ซึ่งเป็นหนึ่งในอุตสาหกรรมอาหารแห่งอนาคต งานประชุมครั้งนี้ มีการนำเสนอผลวิจัยจาก Madre Brava ร่วมกับ Asia Research and Engagement เรื่อง Projecting the Impacts of Protein Transition in Thailand ได้ชี้ให้เห็นถึงประโยชน์ทางเศรษฐกิจและสิ่งแวดล้อมของการเปลี่ยนผ่านนี้ โดยการเปลี่ยนมาบริโภคโปรตีนจากพืชเพิ่มขึ้นเป็น 50% ภายในปี 2593 จะช่วยลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกได้ 35.5 ล้านตันคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่า สามารถสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจได้มากกว่า 1.3 ล้านล้านบาท (หรือประมาณ 36.8 พันล้านเหรียญสหรัฐ) และเพิ่มโอกาสการจ้างงานให้กับแรงงานไทยมากกว่า 1.15 ล้านตำแหน่ง

ในการประชุมครั้งนี้ ได้มีการแลกเปลี่ยนความคิดเห็น ระบุความท้าทายและกลไกขับเคลื่อนหลักในการเปลี่ยนผ่านด้านโปรตีนของไทย ท่ามกลางตัวแทนจากทั้งภาครัฐและภาคเอกชนที่มีเป้าหมายในการขับเคลื่อนเรื่องความยั่งยืน จึงถือเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีของความร่วมมือที่เข้มแข็ง เพื่อขับเคลื่อนอุตสาหกรรมโปรตีนและอาหารแห่งอนาคตของไทยไปสู่ความยั่งยืน อีกทั้งเป็นสัญญาณสำคัญให้ภาครัฐและเอกชนเห็นถึงประโยชน์และโอกาสทางเศรษฐกิจและสิ่งแวดล้อมใหม่ ๆ ของอุตสาหกรรมโปรตีนทางเลือกอีกด้วย

เรื่องล่าสุด