(5 มีนาคม 2568) สำนักงานสภานโยบายการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมแห่งชาติ (สอวช.) ร่วมกับ National Research Foundation Singapore (NRF) จัดการประชุมแลกเปลี่ยนแนวทางการบริหารจัดการด้านวิทยาศาสตร์ วิจัย และนวัตกรรม (ววน.) ในลักษณะ Virtual Meeting โดยมีผู้แทนจากทั้งสองประเทศเข้าร่วมเสนอแนวทางการจัดสรรงบประมาณ การกำหนดยุทธศาสตร์ด้าน ววน. และระบบการติดตามและประเมินผลเพื่อสนับสนุนการพัฒนาเศรษฐกิจและความยั่งยืน
โดยมี นายภาสพงศ์ อารีรักษ์ ผู้อํานวยการฝ่ายระบบบริหารจัดการของภาครัฐด้านการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์วิจัยและนวัตกรรม สอวช. เป็นผู้กล่าวเปิดการประชุม พร้อมด้วยผู้แทนจาก NRF ได้แก่ Ms. Elizabeth Heng ผู้อำนวยการอาวุโส (ฝ่ายยุทธศาสตร์), Dr. Poh Wei Theng รองผู้อำนวยการ ฝ่ายความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ และ Mr. Tan Zhenyang รองหัวหน้าฝ่ายความสัมพันธ์ระหว่างประเทศและโซลูชันเพื่อความยั่งยืนเมือง โดยประเด็นสำคัญของการประชุมมุ่งเน้นไปที่การแลกเปลี่ยนโครงสร้างระบบ ววน. ของแต่ละประเทศ กลไกการจัดสรรงบประมาณ การบริหารจัดการแผน ววน. ระดับชาติ และแนวทางการติดตามและประเมินผลการลงทุนด้าน ววน.
ดร.จอมพล ทองแป้น ผู้เชี่ยวชาญนโยบาย และ ดร.ชนิกา ไหล่แท้ นักพัฒนานโยบาย ฝ่ายระบบบริหารจัดการของภาครัฐด้านการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์วิจัยและนวัตกรรม สอวช. ได้นำเสนอโครงสร้างและการจัดสรรงบประมาณ ววน. ของประเทศไทย ที่ใช้ระบบงบประมาณแบบรวมศูนย์ ภายใต้แผน ววน. แห่งชาติ ฉบับที่ 2 (2566-2570) ซึ่งแบ่งเป็น 4 ยุทธศาสตร์หลักและ 25 โปรแกรมครอบคลุมอุตสาหกรรมเป้าหมาย เทคโนโลยีขั้นสูง การพัฒนาสังคมและสิ่งแวดล้อม และการพัฒนากำลังคนด้าน ววน. และการจัดสรรเงินทุนผ่านหน่วยบริหารจัดการทุนวิจัย (PMUs) และระบบการติดตามและประเมินผล (M&E) ด้านวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม
หลังจากนั้น NRF สิงคโปร์ ได้นำเสนอเกี่ยวกับประวัติของระบบวิจัย นวัตกรรม และองค์กร (Research, Innovation and Enterprise: RIE) และแผน RIE2025 ของประเทศ โดยอธิบายถึงโครงสร้างการทำงานของ NRF ซึ่งก่อตั้งขึ้นเมื่อวันที่ 1 มกราคม 2549 ภายใต้สำนักนายกรัฐมนตรีของสิงคโปร์ บทบาทหลักของ NRF คือการกำหนดทิศทางนโยบาย วางแผน และยุทธศาสตร์ด้านการวิจัย นวัตกรรม และองค์กร เพื่อเปลี่ยนสิงคโปร์ให้เป็นศูนย์กลางการวิจัยและพัฒนา และบทบาทในการบริหารจัดการงบประมาณ ววน. ซึ่งมีลักษณะเป็นรอบ 5 ปีผ่านแผน RIE2025 ระบบของสิงคโปร์ให้ความสำคัญกับการทำงานร่วมกับหน่วยงานดำเนินการ (Implementing Agencies) ที่มีบทบาทในการนำงบประมาณไปพัฒนางานวิจัยและนวัตกรรม NRF ยังมีความร่วมมืออย่างใกล้ชิดกับพันธมิตรระหว่างประเทศ โดยใช้กลไกความร่วมมือผ่านโครงการวิจัยร่วม ข้อตกลงความร่วมมือ และการมีคณะที่ปรึกษาระดับนานาชาติเพื่อให้แน่ใจว่าการลงทุนด้าน ววน. ของประเทศมีทิศทางที่สอดคล้องกับแนวโน้มโลก
ด้านสิงคโปร์ NRF ได้นำเสนอโมเดล การบริหารงบประมาณแบบ 5 ปี ภายใต้ แผนการลงทุน RIE2025 (พ.ศ. 2564-2568) โดยเน้นสร้างสมดุลระหว่างการลงทุนในโครงการที่เพิ่มมูลค่าทางเศรษฐกิจและการพัฒนาขีดความสามารถในประเทศ โดยมีการจัดสรรงบประมาณ 28 พันล้านดอลลาร์สิงคโปร์ หรือประมาณ 1% ของ GDP ต่อปี ไปยัง 4 สาขาหลัก (Domains) ได้แก่ การผลิตและการค้า (MTC) สุขภาพและศักยภาพของมนุษย์ (HHP) การพัฒนาเมืองและความยั่งยืน (USS) และ ชาติอัจฉริยะและเศรษฐกิจดิจิทัล (SNDE) เสริมด้วย 3 แกนหลัก (Horizontals) ที่ช่วยสนับสนุนการพัฒนาอย่างครบวงจร ได้แก่ Academic Research ซึ่งเน้นการพัฒนางานวิจัยพื้นฐานเพื่อสร้างองค์ความรู้ใหม่ Innovation & Enterprise (I&E) ที่มุ่งเน้นการผลักดันนวัตกรรมสู่ภาคอุตสาหกรรม และ Talent Development ที่ให้ความสำคัญกับการพัฒนาบุคลากรด้านวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และนวัตกรรม นอกจากนี้ ยังมีงบประมาณ White Space เพื่อรองรับโครงการใหม่ที่ไม่ได้คาดการณ์ไว้ล่วงหน้า เพิ่มความยืดหยุ่นให้กับระบบการลงทุน RIE2025
โดยในช่วงท้าย ผู้เข้าร่วมทั้งจาก สอวช. สกสว. และ NRF ได้ร่วมแลกเปลี่ยนความคิดเห็นเชิงลึกเกี่ยวกับการดำเนินนโยบาย กลไกการจัดสรรงบประมาณ และความร่วมมือด้านการวิจัย ซึ่งการอภิปรายครั้งนี้ช่วยให้ทั้งสองฝ่ายเข้าใจถึงแนวทางในการแก้ไขปัญหา และถือเป็นก้าวสำคัญในการพัฒนาระบบวิทยาศาสตร์ วิจัย และนวัตกรรมของทั้งสองประเทศ
