messenger icon
×
หน้าหลัก » ข่าวประชาสัมพันธ์ » วิกฤตโควิด-19 คนไทยต้องช่วยกัน หยุดการแพร่ระบาดระลอกใหม่

วิกฤตโควิด-19 คนไทยต้องช่วยกัน หยุดการแพร่ระบาดระลอกใหม่

วันที่เผยแพร่ 26 เมษายน 2021 4783 Views

จากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด 19 ระลอกสาม ซึ่งเป็น “โควิดกลายพันธุ์” สายพันธุ์อังกฤษ ตัวเลขผู้ติดเชื้อโควิดรายวันพุ่งขึ้นไม่หยุด จากความรุนแรงของเชื้อและแพร่กระจายง่ายอย่างรวดเร็ว จนน่ากังวลว่า ไทยจะอยู่ในสถานการณ์ที่ยากลำบาก

ดังข้อเขียนของ ศ.นพ.ยง ภู่วรวรรณ (หมอยง) หัวหน้าศูนย์เชี่ยวชาญเฉพาะทางด้านไวรัสวิทยาคลินิก ภาควิชากุมารเวชศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้โพสเฟซบุ๊กส่วนตัว Yong Poovorawan มีข้อความว่า โควิด-19 ระบาดในประเทศไทย แพร่กระจายและติดต่อได้ง่าย

ดังที่ได้เคยเรียนมาแล้ว สายพันธุ์อังกฤษแพร่กระจาย ได้ง่ายและรวดเร็วกว่า ตัวอย่างที่เห็นชัด ก็ในประเทศอังกฤษ ในเดือนธันวาคม ทำให้ระบบการแพทย์ของอังกฤษ แทบล้มเหลว สายพันธุ์เดิม สมมุติว่าต้องรับเชื้อ 100 ตัว จึงจะติด และเกิดโรคได้ สายพันธุ์ใหม่หรือสายพันธุ์อังกฤษ การรับเชื้ออาจจะเหลือแค่ 50 ตัว ก็สามารถติดและเกิดโรคได้ สายพันธุ์นี้เกาะติดกับเซลล์ของเราได้ดีกว่า สายพันธุ์เดิม จึงแพร่กระจายได้ง่ายอย่างที่เห็น มาตรการที่ใช้ในการป้องกันต้องมากกว่า สายพันธุ์เดิม

การระบาดในวงจรแรก จะอยู่ในสถานบันเทิง และจะอยู่ในตัวเมืองใหญ่ การแพร่กระจาย จะออกนอกตัวเมืองใหญ่ ไปยังตัวเมืองต่างจังหวัด ในวงจรต่อๆไป และจากต่างจังหวัดในตัวเมือง ก็จะเริ่มออกสู่อำเภอ และตำบล และจะลงสู่หมู่บ้าน เราเห็นตัวอย่างได้จากหลายประเทศ เริ่มจากเมืองใหญ่ก่อน การหยุดการเคลื่อนที่ของประชาชน เป็นหนึ่งในวิธี ของการหยุดการแพร่กระจาย ช่วงสงกรานต์ เป็นช่วงที่มีการเคลื่อนที่ของประชาชนมากที่สุด

การควบคุมต่อไปนี้ จะต้องใช้วิธีการที่มากขึ้น จึงจะควบคุมโรคได้ การตรวจผู้สงสัยจะต้องตรวจเชิงรุก ทุกรายที่ตรวจให้ผลบวก จะต้องเข้าสู่โรงพยาบาลสนาม หรือโรงแรมที่กำหนด ผู้ป่วยที่มีอาการมากเท่านั้น จึงจะรับการรักษาไว้ในโรงพยาบาล โรงพยาบาลทุกแห่ง ควรเพิ่มอัตราการตรวจให้เพิ่มขึ้น และทางฝ่ายรัฐ จะต้องเป็นผู้ดูแล ผู้ที่ตรวจให้ผลบวกทั้งหมด และจัดสรร ผู้ที่มีอาการมาก เข้ารับการรักษาในโรงพยาบาล ถ้าให้โรงพยาบาลที่ตรวจพบ เป็นผู้จัดการผู้ป่วยเอง เพราะเมื่อจัดการไม่ได้ ก็จะงดการตรวจ หรือจำกัดการตรวจ ฝ่ายรัฐควรควบคุมค่าตรวจ ให้อยู่ในราคาที่เหมาะสม ในมาตรฐานเดียวทั้งประเทศ และให้ห้องปฏิบัติการ ทุกคนช่วยกันตรวจให้มากที่สุด เพื่อแยกผู้ป่วยออกจากประชากรให้ได้มากที่สุด ความสามารถในการตรวจของประเทศไทยสูงมาก แต่ขณะนี้ผู้ต้องสงสัยหาที่ตรวจได้ยาก เพราะบางโรงพยาบาลจะจำกัดจำนวนการตรวจแต่ละวัน หรืองดการตรวจ ว่าน้ำยาหมด

ตัวอย่างที่เราเห็นคือประเทศอินเดีย ที่ขณะนี้ยากเกินกว่าที่จะควบคุมโรคนี้ได้ เมื่อเกิดการระบาดมาก มันจะเกิดเชื้อที่กลายพันธุ์เพิ่มขึ้น ในอินเดียมีเชื้อกลายพันธุ์ที่เรียกว่า Double mutations สายพันธุ์อินเดีย ที่ทำให้ติดได้ง่ายขึ้น และมีแนวโน้มที่จะลดประสิทธิภาพของวัคซีน เป็นสายพันธุ์ที่จะท้าทายความสามารถของมนุษย์ ประเทศอินเดียอยู่ไม่ไกลจากเรา และทำนองเดียวกัน ถ้าเรามีผู้ป่วยหรือระบาดจำนวนมาก ก็จะมีการกลายพันธุ์ของไวรัสได้

สุดท้าย ศ.นพ.ยง บอกว่า “เราไม่อยากได้ยิน ชื่อไวรัส สายพันธุ์ประเทศไทย”

สอดคล้องกับ รศ.นพ.ธีระ วรธนารัตน์ (หมอธีระ) คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ก็ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊คส่วนตัว Thira Woratanarat โดยมีข้อความตอนหนึ่งระบุถึงสถานการณ์การแพร่ระบาดโควิด 19 ในประเทศไทยว่า ต้องช่วยกันป้องกันตัวเองและสมาชิกในครอบครัวอย่างเต็มที่ เคร่งครัด เพราะการระบาดตอนนี้กระจายไปทั่ว ทุกกลุ่มเป้าหมาย ที่น่าหนักใจคือมีการติดเชื้อจากการใช้ชีวิตประจำวันมากขึ้นเรื่อย ๆ และมีการนำพามาติดคนในบ้าน มีตั้งแต่เด็กเล็กเด็กโต คนวัยทำงาน คนสูงอายุ

“จากที่ติดตามประสบการณ์ของประเทศต่างๆ ทั่วโลกที่เจอระบาดระลอกสาม หลังไต่ขึ้นสองสัปดาห์ มักจะเจอช่วงพีคหลังจากนั้นประมาณ 3.5 สัปดาห์ บวกลบ 2.5 สัปดาห์ แม้บางประเทศอาจเร็วกว่านั้นได้บ้างแต่มีไม่มาก ดังนั้นหากเราทราบไว้ก่อน จะได้ไม่ประมาท ตั้งการ์ดป้องกัน วางแผนรับมือไว้ก็จะเป็นการรอบคอบมากกว่า ในขณะที่จำนวนการติดเชื้อต่อวันที่สูงสุดในระลอกสามนั้น เฉลี่ยแล้วจะมากกว่าระลอกสองราว 2.06 เท่า แต่หากควบคุมไม่ได้อาจสูงไปถึง 5.59 เท่า”

ทั้งนี้ ศ.นพ.ธีระ ตั้งข้อสังเกตว่า กุญแจสำคัญในการต่อสู้ ยังคงเป็น “ปัจจัยสี่” คือ หนึ่ง ระบบการตรวจคัดกรองโรคต้องมีศักยภาพตรวจได้มากและต่อเนื่อง สอง ประชาชนทุกคนช่วยกันป้องกันตัวเองและครอบครัวอย่างเคร่งครัด สาม ลดละเลี่ยงนโยบายที่จะทำให้เกิดความเสี่ยงต่อการนำเชื้อเข้ามา และการใช้มาตรการที่เข้มข้นเพียงพอและทันเวลา ในการจัดการการระบาดในประเทศ ทั้งในเรื่องลดจำนวนคน จำนวนครั้งในการติดต่อกัน และเวลาในการติดต่อกัน และ สี่ อาวุธในการต่อสู้มีประสิทธิภาพ หลากหลาย และเพียงพอ หากขาดปัจจัยใดไป โอกาสที่จะคุมได้ก็จะยากขึ้นตามลำดับ แต่หากเตรียมอย่างพร้อมสรรพ โอกาสที่จะฟื้นฟูประเทศก็จะมีมากขึ้น ดังที่เราเห็นความเคลื่อนไหวของประเทศต่างๆ ในช่วงที่ผ่านมา

เหนืออื่นใด จะทำได้ ต้องร่วมด้วยช่วยกันทุกภาคส่วน ทั้งรัฐ เอกชน และประชาชน อยู่บ้าน…ออกจากบ้านเท่าที่จำเป็น ใส่หน้ากากนะครับ ปิดปาก ปิดจมูก หากไม่ลำบากเกินไป การใส่สองชั้น ชั้นในเป็นหน้ากากอนามัย ชั้นนอกเป็นหน้ากากผ้า ก็จะช่วยป้องกันได้ดีขึ้น ล้างมือบ่อยๆ พกเจลหรือสเปรย์แอลกอฮอล์ติดตัว ล้างทุกครั้งหลังสัมผัสสิ่งของสาธารณะ อยู่ห่างคนอื่นอย่างน้อยหนึ่งเมตร ไม่ว่าจะคนรู้จักหรือไม่รู้จักก็ตาม เลี่ยงการกินดื่มในร้านหรือโรงอาหาร ซื้อกลับจะปลอดภัยกว่า

นอกจากนี้ ยังต้องระวังเรื่องการใช้สุขาสาธารณะ ปิดฝาก่อนชักโครก ล้างมือทุกครั้ง และใส่หน้ากากด้วย คอยสังเกตอาการตนเองและครอบครัว หากไม่สบาย ควรหยุดงาน แล้วรีบไปตรวจรักษา

เราชาว สอวช. ขอเป็นกำลังใจ ขอให้ทุกคนปลอดภัย และข้ามพ้นวิกฤตครั้งนี้ไปด้วยกัน

Tags:

เรื่องล่าสุด